สภาประชาชนนครหลวงเวียงจันทน์ได้อนุมัติข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยการจัดการ และ กำจัดขยะ ซึ่งนำเสนอการปฏิรูปครั้งใหญ่และบทลงโทษที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อลดการทิ้งขยะผิดกฎหมายและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทั่วกรุงเวียงจันทน์
กฎระเบียบนี้ได้รับการอนุมัติในการประชุมสภาจังหวัดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญสู่เมืองที่สะอาด และ ยั่งยืนยิ่งขึ้น , ข้อตกลงฉบับใหม่นี้กำหนดระบบบทลงโทษแบบขั้นบันไดตามปริมาณ และ ประเภทของขยะ.
บุคคลหรือองค์กรที่ทิ้งขยะโดยไม่เหมาะสมน้อยกว่า 1 กิโลกรัม จะถูกปรับ 100,000 กีบ (4.64 ดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ผู้ที่ทิ้งขยะ 1-10 กิโลกรัม จะถูกปรับ 600,000 กีบ (27.85 ดอลลาร์สหรัฐ) ความผิดที่เกี่ยวข้องกับขยะที่ไม่ได้รับการจัดการมากกว่า 1 ตัน อาจนำไปสู่ค่าปรับสูงสุด 100 ล้านกีบ (4,641.26 ดอลลาร์สหรัฐ) ในกรณีเช่นนี้ ผู้กระทำผิดต้องจ่ายค่าขนส่งและจัดเก็บขยะ ณ สถานที่ที่กำหนดด้วย.
กฎระเบียบนี้ยังห้ามการเผาขยะในที่โล่งในพื้นที่ เช่น ป่าและทุ่งนา โดยมีค่าปรับตั้งแต่ 1 ล้านกีบ (46.41 ดอลลาร์สหรัฐ) ถึง 10 ล้านกีบ (464.13 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อการฝ่าฝืนหนึ่งครั้ง , จากข้อมูลที่สำนักงานการจัดการ และบริการเวียงจันทน์นำเสนอ เวียงจันทน์ผลิตขยะมากกว่า 700 ตันต่อวัน แต่มีเพียง 450 ถึง 500 ตันเท่านั้นที่รวบรวมโดยหน่วยเก็บขยะ 11 แห่งของเมือง.
ซึ่งหมายความว่าประมาณ 67 เปอร์เซ็นต์ของขยะได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง ในขณะที่ 33 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือถูกทิ้งลงบนถนน พื้นที่ว่างเปล่า แม่น้ำ หรือถูกเผา ทำให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมลพิษ คุณภาพอากาศ และความสะอาด แม้กระทั่งในใจกลางเมือง.
เจ้าหน้าที่ระบุว่าปัญหาขยะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากความร่วมมือของภาครัฐที่จำกัดและการขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ ประชาชนจำนวนมากไม่ได้สมัครใช้บริการเก็บขยะ และ บางบริษัทยังขาดอุปกรณ์และยานพาหนะที่จำเป็นในการให้บริการครอบคลุมทั่วเมือง.
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ สำนักงานฯ จึงเรียกร้องให้ขยายบริการสายด่วนและส่งเสริมให้บริษัทกำจัดขยะเอกชนนำระบบไอทีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน และ การประสานงาน , แม้ว่าค่าปรับจะมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้ง แต่เจ้าหน้าที่ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวต้องอาศัยความรับผิดชอบร่วมกัน.
