สหรัฐฯ ได้ลดอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่นำเข้าจากลาวจากร้อยละ 48% เหลือร้อยละ 40% ซึ่งถือเป็นการบรรเทาบางส่วนภายใต้นโยบายภาษีศุลกากรล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันต่อลาวและพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ ยังคงมีสูง ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายการบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม.
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศจดหมายภาษีศุลกากรฉบับใหม่ที่ส่งไปยัง 14 ประเทศ รวมถึงลาว ไทย กัมพูชา มาเลเซีย และ แอฟริกาใต้ จดหมายดังกล่าวระบุถึงอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่แก้ไขใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการแก้ไขสิ่งที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม.
สำหรับลาว อัตราภาษีที่ปรับปรุงใหม่นี้ลดอัตราภาษีลงจากร้อยละ 48 ตามนโยบาย “วันปลดปล่อย” ของทรัมป์ในเดือนเมษายน ซึ่งยังได้ประกาศใช้ภาษีศุลกากรสากลร้อยละ 10 ส่งผลให้อัตราภาษีศุลกากรรวมของสินค้าลาวอยู่ที่ร้อยละ 58 ทำเนียบขาวได้คำนวณอุปสรรคทางการค้าโดยรวม รวมถึงข้อจำกัดที่ไม่ใช่ตัวเงิน ไว้ที่ร้อยละ 95.
ภายใต้การแก้ไขล่าสุด ภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่นำเข้าจากลาวจะถูกจำกัดไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่าอัตราภาษีอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หากประเทศต่างๆ กำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้หรือไม่สามารถลดอุปสรรคต่อสินค้าของสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้ผู้ผลิตย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษในอนาคต.
แม้จะมีการปรับลดภาษีศุลกากรใหม่นี้ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้ส่งออกของลาว สหรัฐฯ ได้กลายเป็นตลาดที่เติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์ของลาว เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ รองเท้า สิ่งทอ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ กาแฟพิเศษ ภาษีศุลกากร 40 เปอร์เซ็นต์อาจกระตุ้นให้ผู้ซื้อชาวอเมริกันมองหาทางเลือกที่ถูกกว่า ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อผลกำไรที่ธุรกิจของลาวทำได้ในตลาดต่างประเทศ.
ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เผชิญกับการปรับลดภาษีศุลกากรเช่นกัน โดยกัมพูชาลดภาษีศุลกากรจาก 49 เปอร์เซ็นต์เหลือ 36 เปอร์เซ็นต์ มาเลเซียลดเหลือ 24 เปอร์เซ็นต์ และ ไทยลดภาษีศุลกากรเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์แพลตตินัมรายสำคัญของสหรัฐฯ เผชิญอัตราภาษีศุลกากรที่ใกล้เคียงกันที่ 30 เปอร์เซ็นต์.
ตลาดตอบสนองอย่างรวดเร็ว หุ้นของบริษัทผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นและเกาหลีซึ่งระบุชื่อในจดหมายภาษีศุลกากรด้วย ร่วงลงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ขยายวงกว้างขึ้น โดยไทยและมาเลเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ และ อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด.
สหภาพยุโรปไม่ได้เข้าร่วมมาตรการภาษีรอบนี้ เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรประบุว่าพวกเขาได้รับเวลาเพิ่มเติมในการเจรจา ซึ่งบ่งชี้ว่าคู่ค้าบางรายอาจยังคงหลีกเลี่ยงการเพิ่มระดับภาษีศุลกากรในทันที.
อย่างไรก็ตาม สำหรับลาว แนวโน้มการค้ายังคงไม่แน่นอน แม้ว่าการลดภาษีจะช่วยบรรเทาได้บ้าง แต่ภาษี 40 เปอร์เซ็นต์นี้ยังคงจัดอยู่ในกลุ่มอัตราสูงสุดที่บังคับใช้ภายใต้มาตรการการค้าปัจจุบันของรัฐบาลทรัมป์.
