เด็กผู้หญิง 1 ใน 3 ในลาวแต่งงานก่อนอายุ 18 ปี ทําให้เป็นหนึ่งในอัตราการแต่งงานในเด็กที่สูงที่สุดในภูมิภาค แม้จะมีกฎหมายห้ามการแต่งงานที่มีอายุต่ํากว่า 18 ปี แต่การปฏิบัติดังกล่าวยังคงบ่อนทําลายสิทธิ การศึกษา และสุขภาพของเด็กหญิ งและ สตรีชาวลาว.
สํานักงานสถิติลาว รายงาน ว่าในปี 2566 หญิงสาวร้อยละ 30.5 แต่งงานก่อนอายุครบ 18 ปี อัตรานี้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มสตรีที่เข้าถึงการศึกษาอย่างจํากัด ผู้ที่มาจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่ด้อยโอกาส หรือครัวเรือนที่ยากจนที่สุด .
ยูนิเซฟตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งงานก่อนวัยอันควรมักส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางการศึกษา โอกาสทางเศรษฐกิจที่จํากัด และ ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ก่อนกําหนด ความเหลื่อมล้ําของแต่ละจังหวัดยังคงชัดเจน.
จังหวัดหัวพัน มี อัตราการแต่งงานในเด็กสูงสุดในกลุ่มผู้หญิงที่ 46 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่นครหลวงเวียงจันทน์มีอัตราการแต่งงานในเด็กต่ําที่สุดที่ 13 เปอร์เซ็นต์ , มีรายงานว่าเด็กผู้หญิงในพื้นที่ชนบทมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ โดย 36 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงอายุ 20-24 ปีแต่งงานก่อนอายุ 18 ปี เทียบกับ 17 เปอร์เซ็นต์ในเขตเมือง.
แม้จะมีความคืบหน้าบ้าง แต่ความท้าทายยังคงอยู่ การแต่งงานในเด็กในผู้หญิงอายุ 20-24 ปีลดลงจาก 37 เปอร์เซ็นต์ในปี 2011 เป็น 30.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023 ตามข้อมูลของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) แต่อัตรายังคงสูงอย่างน่าตกใจ.
ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งงานก่อนวัยอันควรยังคงกระตุ้นให้เกิด การออกจากโรงเรียน ผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ไม่ดี และ ความยากจนระหว่างรุ่น , ระบบการศึกษาแสดงความตึงเครียดอยู่แล้ว จากข้อมูลของกรมศึกษาทั่วไป จํานวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่สอบปลายภาคในปีการศึกษา 2567-2568 ลดลงเหลือ 110,922 คน เทียบกับกว่า 115,500 คนในปีการศึกษาก่อนหน้า.
นอกเหนือจากผลกระทบของมนุษย์แล้ว การแต่งงานในเด็กยังมีต้นทุนทางเศรษฐกิจที่หนักหน่วงอีกด้วย , ยูนิเซฟลาวประเมินว่าการยุติการแต่งงานในเด็กสามารถช่วยประเทศได้ 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีโดยการลดอัตราการเสียชีวิตของเด็ก.
ธนาคารโลกตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการแต่งงานก่อนวัยอันควรยังส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ํากว่า 5 ปีอยู่ที่ 39 ต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คนในปี 2023 และ เพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนของมารดา ความรุนแรง และ ความโดดเดี่ยวทางสังคมสําหรับเด็กผู้หญิง.
ผู้กําหนดนโยบายตระหนักถึงอันตรายเหล่านี้จึงเรียกร้องให้ดําเนินการอย่างเร่งด่วน คําไบ ดามลัต รองประธานคณะกรรมการประจําสภากล่าวในการประชุมสิทธิเด็ก และ เยาวชนเมื่อวันที่ 1 กันยายน เน้นย้ําถึงความจําเป็นในการยุติการปฏิบัติที่เป็นอันตราย ขยายการศึกษา และ การดูแลสุขภาพ และ ลงทุนในเยาวชนเพื่อรักษาอนาคตของประเทศ.
